ใหม่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีเเอล-คลาส ราคา Mercedes-Benz GL-Class
สำหรับ Mercedes-Benz GL-Class ในเวอร์ชั่นล่าสุดนั้น มีขุมกำลังเครื่องยนต์ขั้นเทพที่น่าสนใจเลยทีเดียว โดยเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบใน GL ใหม่ ถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสม ในการลดความสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสีย ท่ามกลางความโดดเด่นอื่น ๆ เครื่องยนต์นี้ถูกติดตั้งด้วยระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรลไดเรคอินเจคชั่นเจนเนอเรชั่นที่ 3 พร้อมเทคโนโลยี BlueTEC เทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ใช้การทำงานของระบบไอเสียและอินเตอร์คูลลิ่ง เครื่องยนต์นี้มีไส้กรองอนุภาคที่ปราศจากการซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งาน และผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 6 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เเละสเปกของเครื่องยนต์ในรุ่นนี้คือเครื่องยนต์เเบบ วี 6 ขนาดความจุ 2,987 ซีซี โดยสามารถให้กำลังสุงสุดอยู่ที่ 190 เเรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 620 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที เเละมีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 15.5 : 1 โดยทำความเร็วได้สูงสุดอยู่ที่ 220 กิดลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วดมง ใช้เวลาเพียง 7.9 วินาทีเท่านั้น พร้อมกับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12.5-13.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เเละมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 192-209 กรัมต่อกิโลเมตร โดยมีมาตฐานไอเสียเเบบยูโร 6
สำหรับระบบเกียร์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีเเอล-คลาส นั้นเป็นเเบบ 7G-TRONIC PLUS มีความโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยประสิทธิภาพลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่ถูกต้องแม่นยำและลดระดับเสียงดังที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานให้น้อยลง โดยเกียร์เดินหน้า 7 จังหวะ จะมีช่วงห่างโดยรวมระหว่างตำแหน่งเกียร์สูงและเกียร์ต่ำกว้างขึ้น และลดช่วงว่างระหว่างตำแหน่งเกียร์ทำให้การขับขี่เป็นประสบการณ์ที่มากด้วยความนุ่มนวลสะดวกสบายสูงสุด ส่วนในเรื่องของรอบเครื่องยนต์สามารถทำงานอย่างเหมาะสม เเละก่อให้ผลที่เกิดขึ้นคือความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำลงและรู้สึกถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยสร้างแรงบิดที่ทรงพลัง โดยสามารถเปลี่ยนเกียร์แบบข้ามจังหวะได้ เมื่อต้องการเรียกพลังจากเครื่องยนต์มาใช้อย่างเต็มที่ ทำให้การทำงานและตอบสนองการใช้งานอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยีของระบบส่งกำลังที่ก้าวหน้ามากขึ้น โดยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ โดยมีฟังก์ชัน ECO start/stop จะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ลงชั่วคราวเมื่อรถยนต์จอดนิ่งอยู่กับที่
ส่วนช่วงล่างของ Mercedes-Benz GL-Class นั้นถือว่าน่าสนใจเป้นอย่างยิ่งด้วยระบบรักษาสมดุลของตัวถังขณะเข้าโค้ง และขับขี่แบบออฟโรด จะกำหนดความเอียงตัวของรถโดยใช้เซ็นเซอร์แรงดันในกระบอกสูบโรตารีในเพลาหน้าและเพลาหลัง เซ็นเซอร์แรงเหวี่ยงด้านข้าง จากนั้นหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิกส์จะส่งสัญญาณกระตุ้นการทำงานไปยังวาล์วบล็อคบนเพลาหน้าและเพลาหลัง ควบคุมการไหลของน้ำมันในระบบที่ส่งมาจากปั๊มไฮดรอลิก จากนั้นแรงดันที่เกิดขึ้นและการทำงานของระบบกันสะเทือนและเหล็กกันโคลงที่ติดตั้งบนแต่ละเพลาจะถูกปรับไปตามสถานการณ์การขับขี่โดยอัตโนมัติ เเละยังมีระบบ Direct-Steer ประกอบด้วย 2 ส่วน : ระบบสนับสนุนการทำงานของพวงมาลัยเพาเวอร์ที่ขึ้นอยู่กับระดับความเร็วซึ่งรู้จักกันในชื่อระบบปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ และอัตราทดแบบแปรผันตามองศาของพวงมาลัย เป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อต้องนำรถเข้าจอดซึ่งแรงที่ต้องใช้สำหรับหมุนพวงมาลัยจะอยู่ในระดับต่ำ และเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงเมื่อความเร็วของรถเพิ่มขึ้นช่วยเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวบนเส้นทางตรงยาวขณะใช้ความเร็วสูง ขณะที่การทำงานของแรคพวงมาลัยจะถูกกำหนดโดยเฟืองเกียร์แบบแปรผัน พร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับ ADS ช่วยให้การขับขี่เป็นไปด้วยความสะดวกสบายและเต็มไปด้วยพลังในการขับเคลื่อนในระดับสูงสุด ระบบนี้ทำงานร่วมกับการปรับรับแรงสั่นสะเทือนโดยอัตโนมัติที่ทำงานไปตามสถานการณ์การขับขี่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เสียงของยางที่บดลงไปบนพื้นถนนและการสั่นสะเทือนของยางยังสื่อถึงความยอดเยี่ยมแม้ในสภาพถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ
ส่วนระบบขับเคลื่อนของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีเเอล-คลาส นั้นก็เป็นเเบบระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา 4MATIC ให้การบังคับควบคุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถยกระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์การขับขี่ที่ท้าทายทักษะความสามารถของผู้ขับขี่ 4MATIC ยกระดับพลังในการขับเคลื่อน การยึดเกาะถนนและการบังคับควบคุมให้สูงขึ้น เมื่อเดินทางบนเส้นทางที่วิบากทุรกันดาร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC ช่วยให้ผู้ขับขี่พารถยนต์เคลื่อนที่ไปด้วยความปลอดภัยมากขึ้น ถ้ามีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการลื่นไถลบนพื้นผิวที่มีความแตกต่างกัน ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีระบบเบรกจะถูกแทรกแซงการทำงานพร้อมทั้งปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ที่ส่งไปยังล้อเพื่อไม่ให้รถยนต์เกิดการลื่นไถล
สำหรับการออกแบบภายนอกของ Mercedes-Benz GL-Class ใหม่ปลดปล่อยความโดดเด่นสะดุดตาจากจุดศูนย์กลาง ที่ไม่อาจละสายตาดึงดูดใจของรูปแบบแนวเส้นที่เปี่ยมด้วยพลังในการขับเคลื่อน ก่อนที่จะเลื่อนสายตาต่อไปยังด้านท้ายที่ทรงพลังเหนือปีกข้างที่เสมือนกับกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งของนักกีฬา ไปจนถึงลักษณะที่โดดเด่นของกระจังหน้า เป็นลักษณะของความยอดเยี่ยมที่แผ่กระจายออกมาโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอื่นใด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความสะดวกสบายทั้งหมดที่มีอยู่ทำให้ GL-Class เป็นรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับความหรูหราทันสมัยอย่างแท้จริงด้วยความยาว 5120 มม. และความกว้าง 1934 มม. ทำให้ GL ใหม่มีรูปร่างที่ยาวกว่าและกว้างกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโมเดลต้นแบบ ส่งผลให้เกิดความประทับใจได้มากยิ่งขึ้น กระจังหน้าพร้อมสัญลักษณ์ดาวสามแฉก ชุดไฟหน้าที่ออกแบบใหม่และเสา D-pillar ยังมีส่วนร่วมในการสร้างความประทับใจด้วยเช่นกัน เเต่อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่ประทับใจนี้ได้รับการสนับสนุนยิ่งขึ้นด้วยอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มเติม ด้วยไฟ LED ส่องสว่างบริเวณกาบบันไดอลูมิเนียมเคลือบเงา พร้อมหลอดไฟด้านหลังยังคงเป็นแบบสองโทนสี (แดง/แดงอ่อนและแดง/ขาวใส) ยังเป็นแบบสองชิ้น รวมถึงด้านข้างและไฟส่องสว่างที่ประตูหลัง เคเบิ้ลใยแก้วนำแสงถูกนำมามาใช้ในส่วนของไฟท้ายเช่นเดียวกับการใช้เทคโนโลยี LED ในไฟสัญญาณบอกทิศทางด้วย นอกจากนี้แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถโครเมียมขนาดใหญ่ในกันชนหน้าและหลัง ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะตัวของรถยนต์ในสไตล์เอสยูวี รวมถึงคิ้วโครเมียมที่บานประตูและแผงด้านข้างที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
สำหรับรูปแบบของการออกแบบภายในห้องโดยสารของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีเเอล-คลาส ก็ผสมผสานกันอย่างสวยงามโดยใช้วัสดุคุณภาพสูงและความใส่ใจในทุกรายดึงดูดความสนใจได้อย่างน่าประทับใจ เบาะนั่งแถวที่ 3 ที่เป็นอุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานแสดงให้เห็นถึงการใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างกว้างขวางได้สมเหตุผล ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรวม 7 คนสามารถเดินทางร่วมกันได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยความโดดเด่นของ GL ใหม่ คือมีความกว้างใหญ่ของพื้นที่ภายในห้องโดยสาร สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนตั้งแต่การเดินทางครั้งแรกจากพื้นที่สำหรับวางขา พื้นที่ด้านบนศีรษะและช่วงหัวไหล่ที่กว้างขวางบนเบาะที่นั่งทั้ง 3 แถว โดยการเข้าสู่ห้องโดยสารไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือด้านหลังเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย เป็นผลจากองศาของการเปิดประตูที่เปิดได้กว้างเป็นพิเศษและการปรับตำแหน่งของเบาะนั่งและพวงมาลัย ด้วยระบบ EASY-ENTRY และขอบหลังคาที่สูงควรค่าแก่การใช้งาน ส่วนพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระและเบาะที่นั่งเน้นย้ำให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนการใช้งานอย่างอเนกประสงค์ GL ใหม่ มาพร้อมกับเบาะนั่งด้านหลังแบบแยกส่วน พร้อมความหลากหลายในทางเลือกของการปรับเปลี่ยนในเบาะนั่งแถวที่ 2 อีกทั้งเบาะนั่งแบบแยกส่วนในเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับลงและปรับให้ต่ำลงได้ด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงทางเลือกของการพับและล็อคพื้นห้องเก็บสัมภาระ
ส่วนความปลอดภัยนั้น Mercedes-Benz GL-Class มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจทั้ง โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP), ระบบรักษาสมดุลของตัวถังขณะเข้าโค้ง และขับขี่แบบออฟโรด (Active Curve System), ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake Light), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR), ระบบช่วยเบรก (BAS), ระบบเบรกปรับได้ (ADAPTIVE BRAKE), ฟังก์ชัน Electronic Traction System 4ETS สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ, ระบบรักษาความเร็วและจำกัดความเร็ว (Speed Limit Assist), ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี fiber optic, ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS-Intelligent Light System), ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist) เเละกล้องแสดงภาพ 360 องศาส่วนความปลอดภัยนั้น Mercedes-Benz GL-Class มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจทั้ง โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP), ระบบรักษาสมดุลของตัวถังขณะเข้าโค้ง และขับขี่แบบออฟโรด (Active Curve System), ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake Light), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR), ระบบช่วยเบรก (BAS), ระบบเบรกปรับได้ (ADAPTIVE BRAKE), ฟังก์ชัน Electronic Traction System 4ETS สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ, ระบบรักษาความเร็วและจำกัดความเร็ว (Speed Limit Assist), ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี fiber optic, ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS-Intelligent Light System), ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist) เเละกล้องแสดงภาพ 360 องศา
โดยสำหรับ ราคา Mercedes-Benz GL-Class ในเวอร์ชั่นล่าสุดนั้น ทราบมาว่าจะมีการเคาะราคาขายกันออกมาที่ 8,990,000 บาท ต้องเรียกว่าเป็นราคาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียวสำหรับรถยนต์เเนว SUV เเรงๆ เเบบนี้
บทความจากเว็บ autoyim.com