ใหม่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 400 ไฮบริด เอเอ็มจี พรีเมี่ยม ราคา Mercedes-Benz S 400 HYBRID AMG Premium
สำหรับ Mercedes-Benz S 400 HYBRID AMG Premium นั้นพกพาความเเรงมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนไฮบริดเป็นทางเลือกที่แท้จริงและเพื่อก้าวไปสู่อนาคตของการขับขี่ที่ปราศจากการก่อให้เกิดไอเสียโดยสิ้นเชิง ระบบขับเคลื่อนทางเลือกนี้มีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับสิ่งที่จำเป็นต้องมีทั้งหมด สำหรับใช้กับเครื่องยนต์ของ S-Class แต่สามารถทำได้ยอดเยี่ยมมากยิ่งกว่าความต้องการ ระบบนี้เป็นระบบที่ให้พละกำลังแรงม้าสูงและมีการทำงานที่เป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมอย่างมาก ทางเลือกของการเดินทางด้วยระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง โดยมีสเปกเป็นเครื่องยนต์เเบบ 6 สูบเเถวเรียง ขนาดความจุ 3,498 ซีซี โดยสามารถให้กำลังสุงสุดอยู่ที่ 225 เเรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 370 นิวตันเมตรที่ 3,500-5,250 รอบต่อนาที เเละมีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 12 : 1 โดยทำความเร็วได้สูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 6.8 วินาทีเท่านั้น พร้อมกับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 14.7-15.9 กิโลเมตรต่อลิตร เเละมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 147-159 กรัมต่อกิโลเมตร โดยมีมาตฐานไอเสียเเบบยูโร 6 พร้อมกันนี้ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าได้รับกำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรีลิเธียม-ไอออน โดยเป็นการควบคุมที่สมบูรณ์ : เมื่อระบบเบรกทำงาน แบตเตอรีจะได้รับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าโดยระบบการนำพลังงานเบรกกลับมาใช้ใหม่ จอแสดงผลระบบไฮบริดในชุดแผงหน้าปัดและบนจอแสดงผล COMAND จะแสดงสถานะการไหลของพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์สันดาปภายในตามการใช้งานจริงในช่วงเวลานั้น
โดยสำหรับระบบเกียร์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 400 ไฮบริด เอเอ็มจี พรีเมี่ยม นั้นมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ ผสานความนุ่มนวล ความสะดวกสบาย ความเพลิดเพลินในการขับขี่และประสิทธิภาพเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ให้ความประทับใจไปกับการทำงานที่นุ่มนวลและการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่รวดเร็วฉับไว ขณะเดียวกันยังมีส่วนสำคัญในการลดความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสีย โดยเกียร์เดินหน้า 7 จังหวะ ให้ความมั่นใจในการเปลี่ยนเกียร์ที่กระชับมากขึ้น สอดคล้องกับรอบความเร็วของเครื่องยนต์ ฟังก์ชัน ECO start/stop จะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ขณะรอสัญญาณไฟจราจรหรือในสภาพการจราจรที่ติดขัดและจะเริ่มทำงานใหม่อีกครั้งโดยอัตโนมัติ เเละความเร็วที่ต้องการสามารถเรียกใช้ได้ตลอดเวลา การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้ต่ำลงจากเกียร์หนึ่งไปอีกเกียร์หนึ่งหรือมากกว่านั้น เป็นไปโดยอัตโนมัติและการเรียกอัตราเร่งมาใช้ถูกสนองตอบภายในเวลาเพียงเศษเสี้ยววินาที นอกจากนี้การเปลี่ยนเกียร์เหมือนรถแข่งฟอร์มูล่า วัน : ด้วยการใช้ระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ DIRECT SELECT ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แบบเกียร์ธรรมดาได้โดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย โหมดเกียร์ P, R, N และ D สามารถเลือกใช้ได้อย่างสะดวกง่ายดายด้วยการใช้ก้านเกียร์แบบ DERECT SELECT ที่คอพวงมาลัย
สำหรับระบบช่วงล่างของ Mercedes-Benz S 400 HYBRID AMG Premium นั้นมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบอากาศให้ความมั่นใจได้ถึงความนุ่มนวลในการขับขี่และการบังคับควบคุมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด การทำงานของโช้คอัพในแต่ละล้อจะถูกปรับตามสถานการณ์การขับขี่ที่แท้จริงตลอดเวลา และสามารถปรับตั้งเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลหรือให้เข้ากับการขับขี่ในสไตล์สปอร์ตได้ตามความต้องการ โดยความสูงของตัวรถสามารถเพิ่มขึ้นบนสภาพพื้นผิวถนนที่ขรุขระไม่ราบเรียบ ขณะที่ปรับระดับความสูงของตัวรถลงโดยอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วสูงเพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพมากที่สุดและลดแรงต้านของอากาศ ทั้งนี้เพื่อความมีส่วนร่วมในการลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนระบบ Direct-Steer ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถให้ความสะดวกสบายมากขึ้น ด้วยพวงมาลัยปรับน้ำหนักตามความเร็วรถพร้อมการปรับอัตราทดเฟืองพวงมาลัยแบบผันแปร ตัวอย่างเช่น บนถนนที่โค้งไปมาระบบนี้ช่วยให้รถยนต์ตอบสนองการใช้งานอย่างคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้นขณะที่ช่วยให้การควบคุมทิศทางของรถเป็นไปอย่างเที่ยงตรงแม่นยำ
การออกแบบภายนอกของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 400 ไฮบริด เอเอ็มจี พรีเมี่ยม นั้นเป็นการรวมตัวกันของรูปแบบที่ทันสมัยและความงดงามในสไตล์สปอร์ตอย่างกลมกลืน แนวเส้นที่เฉียบคม, กระจังหน้าแบบ 3 มิติและนวัตกรรมใหม่ของไฟหน้าและไฟท้ายที่ใช้เทคโนโลยีไฟ LED ที่ทันสมัยที่สุด ล้วนเป็นบุคลิกเฉพาะตัวของเทคโนโลยีชั้นสูงที่มีอยู่ใน S-Class ตามธรรมชาติ และช่วยเน้นย้ำให้เห็นถึงความเป็นหนึ่งในผู้นำของรถยนต์นั่งแบบซาลูนอย่างแท้จริง แม้ในขณะจอดอยู่กับที่ S-Class ใหม่ ยังให้ความประทับใจไปกับความรู้สึกของความเร็วที่พร้อมจะพุ่งทะยานไปเบื้องหน้าในทุกวินาที รูปแบบใหม่ยืนยันให้เห็นได้อย่างชัดเจนจากกระจังหน้าใหม่ลาย 4 แถบ, ฝากระโปรงหน้าที่สวยสะดุดตาและโครงร่างที่ชัดเจนของไฟหน้า LED สมรรถนะสูง โดยความโค้งเว้าของพื้นผิวทำให้เกิดภาพลักษณ์ของสมรรถนะในการขับเคลื่อนสไตล์สปอร์ตที่ร้อนแรง ดุดัน แถบคาดแนวนอนด้านท้ายให้ความรู้สึกถึงการรวมกันของความสวยงามและรูปแบบสปอร์ตอย่างสอดคล้องกลมกลืน ขณะเดียวกันยังให้ความรู้สึกถึงความกว้างขวางของตัวรถได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ไฟท้าย LED สองสีสามแถบสไตล์ใหม่ขนาบอยู่ข้างฝากระโปรงท้ายให้รูปแบบพิเศษที่สัมผัสมองเห็นได้อย่างชัดเจนในยามค่ำคืน
ดีไซน์ภายในของ Mercedes-Benz S 400 HYBRID AMG Premium หนึ่งในความโดดเด่นแรกที่สะดุดสายตาเป็นพิเศษคือลายไม้ที่นำมาตกแต่งโดยรอบห้องโดยสาร เมื่อประสานกับดีไซน์ที่ทันสมัยให้ความรู้สึกถึงความกว้างขวางโอ่อ่าและความสงบเงียบ ปุ่มควบคุมคุณภาพสูงทำจากอลูมิเนียมและสวิทซ์ควบคุมที่พื้นผิวเป็นโลหะสีมุกเป็นตัวแทนสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของ Mercedes-Benz ได้อย่างประทับใจ ทั้งความอบอุ่น, ไฟส่องสว่างสีขาวและอุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มเติม ไฟเรืองแสงล้อมรอบภายในห้องโดยสารที่มีให้เลือกถึง 7 สีแผ่กระจายความรู้สึกถึงความสะดวกสบายอย่างแท้จริง ชุดไฟส่องสว่างได้รับการออกแบบและติดตั้งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยทั่วในห้องโดยสาร ตัวอย่างเช่น การส่องสว่างที่มือจับเปิดประตูและที่วางเท้าผู้โดยสารด้านหน้า นอกจากนี้นวัตกรรมหน่วยแสดงผลในพื้นที่ของผู้ขับขี่ที่ประกอบด้วยชุดแผงหน้าปัดและจอแสดงผลที่ประกอบด้วยจอแสดงผล TFT 31.2 ซม.ที่มีระดับ การส่องสว่างเพียงพอให้การอ่านค่าต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวกชัดเจนที่สุดอีกด้วย
ทางด้านของความปลอดภัยนั้น เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส 400 ไฮบริด เอเอ็มจี พรีเมี่ยม ก็มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อม Hill-Start Assist, การเตรียมความพร้อม, การทำให้เบรกแห้งและฟังก์ชัน HOLD, ไฟเบรก LED กะพริบฉุกเฉิน, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP Dynamic Curve Assist, ระบบเปิดไฟส่องสว่างอัตโนมัติ Headlamp Assist, ระบบ LED ส่องสว่างอัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมีระบบเบรกป้องกันล้อล็อค (ABS), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR) เเละระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE โดยมีถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมปรับการทำงานโดยอัตโนมัติสำหรับถุงลมนิรภัยของผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมกับถุงลมนิรภัยด้านข้างซ้ายและขวาในห้องโดยสารด้านหลังโดยเสริมด้วยม่านหน้าต่างนิรภัย เเละฝากระโปรงหน้าแบบ Active Bonnet พร้อมการปกป้องผู้สัญจรบนท้องถนน
สำหรับ ราคา Mercedes-Benz S 400 HYBRID AMG Premium ในเวอร์ชั่นล่าสุดนั้น ทราบมาว่าจะมีการเคาะราคาขายกันออกมาที่ 6,490,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับรถยนต์ซีดานกรูหราขนาดใหญ่เเบบนี้
บทความจากเว็บ autoyim.com