New Mercedes-Benz GLA-Class ราคา เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีเเอลเอ-คลาส
สำหรับ Mercedes-Benz GLA-Class ในเวอร์ชั่นล่าสุดนั้น มีขุมกำลังเครื่องยนต์ครื่องยนต์ 4 สูบความจุ 1.6 ลิตรมาพร้อมกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่เยี่ยมยอด ซึ่งได้รับการับรองการผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro 6 เรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญที่เพิ่มมากขึ้นคือการลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงค่าไอเสียและระดับเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ โดยการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่นแรงดันสูง ที่เที่ยงตรงแม่นยำและการปรับปรุงกระบวนการเผาไหม้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้การเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงสะดวกขึ้นและส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น นั่นหมายถึงน้ำมันเชื้อเพลิงถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับปรุงแรงดันจุดระเบิดและการทำงานของเทอร์โบชาร์จให้ความมั่นใจได้ถึงแรงบิดที่สูงในรอบความเร็วเครื่องยนต์ ในส่วนของการควบคุมการทำงานของวาล์วแบบแปรผัน ส่งผลให้ระดับการทำงานของกระบอกสูบเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ช่วยลดน้ำหนักและแรงเสียดทานภายใน และสามารถควบคุมได้ตามที่ต้องการ พร้อมด้วยฟังก์ชัน ECO start/stop เป็นอุปกรณ์มาตรฐานมั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์จะตัดการทำงานลงชั่วคราวในกรณีที่รถจอดนิ่งอยู่กับที่เพื่อช่วยในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง นอกจากนี้จอแสดงข้อมูลโหมด ECO ในแผงหน้าปัดยังแสดงข้อมูลเกี่ยวรูปแบบการขับขี่อีกด้วย โดยสำหรับสเปกของรุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์เเบบ 4 สูบเเถวเรียง ขนาดความจุ 1,595 ซีซี โดยสามารถให้กำลังสุงสุดอยู่ที่ 115 เเรงม้าที่ 5,300 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดสูงสุดจะอยู่ที่ 250 นิวตันเมตรที่ 1,250-4,000 รอบต่อนาที เเละมีอัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 10.3 : 1 โดยทำความเร็วได้สูงสุดอยู่ที่ 215 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 8.8 วินาทีเท่านั้น พร้อมกับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16.9-17.2 กิโลเมตรต่อลิตร เเละมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 138-135 กรัมต่อกิโลเมตร โดยมีมาตฐานไอเสียเเบบยูโร 6
สำหรับระบบเกียร์ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีเเอลเอ-คลาส นั้นมีระบบส่งกำลังแบบคลัทช์คู่ผสานความสะดวกสบายของระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ กับการควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ในแบบเกียร์ธรรมดา ให้การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์เป็นไปอย่างรวดเร็วนุ่มนวล ปราศจากการเข้าไปขัดจังหวะพละกำลังในการฉุดลาก รูปแบบของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์สามารถเลือกปรับตั้งล่วงหน้าได้ ตั้งแต่จังหวะการเปลี่ยนเกียร์แบบสปอร์ตไปจนถึงการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีโหมดการทำงานให้เลือก 3 โหมด “Economy” “Sport” และ “Manual” ด้วยก้านเกียร์แบบ DIRECT SELECT ที่คอพวงมาลัยทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ไปยังตำแหน่ง P, R, N และ D ได้โดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัย โดยในโหมด “Sport” สามารถเปลี่ยนเกียร์แบบข้ามจังหวะได้นอกเหนือจากการคิกดาวน์ สามารถเรียกอัตราเร่งมาใช้ได้อย่างรวดเร็วขึ้น โหมด “Manual” สำหรับผู้ขับขี่ที่ชอบการขับรถในแบบสปอร์ตด้วยการเปลี่ยนเกียร์ในแบบเกียร์ธรรมดา ส่วนการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ขึ้นหรือลดตำแหน่งเกียร์ลงในโหมด “Economy” ทำให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่ต่ำ เหมาะสำหรับการขับขี่ที่ต้องการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นพิเศษ พร้อมกันนี้ยังมีฟังก์ชัน ECO start/stop ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตัดการทำงานของเครื่องยนต์ลงชั่วคราว ขณะติดสัญญาณไฟแดงหรือในช่วงเวลาที่การจราจรติดขัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบรักษาระดับความเร็วและจำกัดความเร็วแบบแปรผัน SPEEDTRONIC เป็นอุปกรณ์ติดตั้งมาตรฐานด้วยเช่นกัน โดยระบบกันสะเทือนให้ความสมดุลที่ยอดเยี่ยมระหว่างความสะดวกสบายกับพลังขับเคลื่อนด้วยสปริง ที่ปรับให้เหมาะสมกับการเดินทางและการชดเชยแรงดึงตัวรถไปด้านข้างอย่างเหมาะสม การผันแปรของล้อรับน้ำหนักอยู่ในระดับต่ำเช่นเดียวกับการโคลงและยุบตัวของตัวถังที่ต่ำ เพิ่มความปลอดภัยในการควบคุมและการบังคับทิศทางรถ
สำหรับการดีไขน์ภายนอกของ Mercedes-Benz GLA-Class นั้นจะเผยให้เห็นความเชื่อมั่นในตัวเองและการคงอยู่ด้วยพลังขับเคลื่อนแบบสปอร์ต และความโดดเด่นด้านหน้า ที่มาพร้อมกับสัญลักษณ์ดาวสามแฉกกึ่งกลางกระจังหน้า แนวเส้นที่เกิดจากการออกแบบยืดขยายทอดตัวจากกรอบไฟหน้าและด้านข้างไปยังเพลาหลัง ก่อให้เกิดภาพของความลื่นไหลและพลังขับเคลื่อนที่งดงามแม้ในขณะที่จอดอยู่กับที่ โดยโครงสร้างของฝากระโปรงหน้าพร้อมเพาเวอร์โดมและกระจังหน้าพร้อมแถบคาดเรียวยาว 2 แถบแนวนอน ทำให้ด้านหน้าของตัวรถมีมิติของความกว้างเป็นพิเศษ นอกจากนี้ พื้นในกระจังหน้ายังออกแบบเป็นรูปตาข่ายสอดรับกันไปมา ต่ำลงไปเป็นแผงกันกระแทกที่สวยงามทันสมัย และเป็นแบบฉบับของรถยนต์สไตล์ SUV โดยเฉพาะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นสีบรอนซ์ ดำโครเมียมหรือดำมันเงาและขอบซุ้มล้อสีดำและแผงขอบกันกระแทกด้านข้างที่ออกแบบพิเศษเฉพาะ สำหรับระบบไฟนั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยี LED ที่เป็นทางเลือกที่เหมาะสม หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมีประสิทธิภาพมากกว่าหลอดไฟที่ใช้อยู่ทั่วไป ก่อให้เกิดรูปแบบของการส่องสว่างที่มีมนต์เสน่ห์สำหรับการใช้งานในยามค่ำคืน คุณสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีนี้กับ GLA ใหม่ได้เช่นกัน โดยหลอดไฟ LED ถูกนำมาใช้ในไฟเลี้ยวทั้งด้านหน้าและหลัง เช่นเดียวกับไฟเบรกและไฟตัดหมอกหลังไฟวิ่งกลางวัน สำหรับไฟบอกตำแหน่งและไฟท้ายใช้ เทคโนโลยีใยแก้วนำแสงทำให้เกิดการส่องสว่างรูปทรงโค้งที่กลมกลืนดุจอัญมณีเลอค่า เป็นการออกแบบที่ปราศจากข้อผิดพลาดสำหรับการใช้งานทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
โดยภายในของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีเเอลเอ-คลาส ดีไซน์ออกมาได้อย่างสวยงามด้วยความสูงของตำแหน่งเบาะนั่งและการออกแบบโครงสร้างแนวนอนทำให้ภายในห้องโดยสารของ GLA ใหม่สะท้อนความเป็นสปอร์ตที่เด่นชัด ความพิถีพิถันในการเลือกวัสดุและการเคลือบเงาผิวด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด รังสรรค์ความกลมกลืนและความประทับใจในคุณภาพโดยรวมทั้งหมด ส่วนพื้นที่สำหรับผู้ขับขี่ของ GLA ใหม่ถูกเน้นย้ำด้วยบรรยากาศแบบสปอร์ตและความถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์อย่างโดดเด่น ประสานอย่างลงตัวกับเสน่ห์ดึงดูดใจของอุปกรณ์ตกแต่ง จอดิสเพลย์แสดงข้อมูลส่วนกลาง ที่เหมือนกับลอยตัวขึ้นมาและคอนโซลกลางที่จัดวางปุ่มควบคุมต่าง ๆ ในตำแหน่งที่ชัดเจน ฟังก์ชันการใช้งานที่นำสมัยและการใช้วัสดุชั้นเยี่ยม โดยภายในห้องโดยสารยังมีพื้นที่สำหรับความเป็นส่วนตัว สิ่งนี้สามารถเลือกได้ใน 3 รูปแบบการดีไซน์ และชุดอุปกรณ์ตกแต่งเช่นเดียวกับความหลากหลายของความเป็นไปได้ในการผสมผสานลายไม้กับวัสดุที่นำมาหุ้มเบาะไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารให้บรรยากาศของความหรูหราเป็นส่วนตัว และเพิ่มความสะดวกในการใช้งานจากอุปกรณ์ต่าง ๆ นี่เป็นส่วนหนึ่งของชุดแพ็กเกจไฟส่องสว่างและการมองเห็น และยังประกอบด้วยไฟส่องสว่างบริเวณที่พักเท้าด้านหน้าและหลังเช่นเดียวกับไฟส่องสว่างที่กาบบันไดข้าง
ส่วนความปลอดภัยนั้น Mercedes-Benz GLA-Class มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจทั้ง โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP), ระบบรักษาสมดุลของตัวถังขณะเข้าโค้ง และขับขี่แบบออฟโรด (Active Curve System), ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake Light), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR), ระบบช่วยเบรก (BAS), ระบบเบรกปรับได้ (ADAPTIVE BRAKE), ฟังก์ชัน Electronic Traction System 4ETS สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ, ระบบรักษาความเร็วและจำกัดความเร็ว (Speed Limit Assist), ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยี fiber optic, ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS-Intelligent Light System), ระบบรักษาสมดุลของตัวรถเมื่อมีลมมาปะทะด้านข้าง (Crosswind Assist) เเละกล้องแสดงภาพ 360 องศา พร้อมกันนี้ยังมีทั้งถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า, ถุงลมนิรภัยป้องกันบริเวณหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่, ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า รวมถึงถุงลมนิรภัยบริเวณทรวงอกและกระดูกเชิงกราน เเละมีม่านหน้าต่างนิรภัย โดยมีจุดยึดเบาะนั่งเด็ก เบาะนั่งด้านหลัง พร้อมกับฝากระโปรงหน้าแบบ active bonnet เรียกว่าปลอดภัยกันเเบบสุดสุดไปเลย
โดยสำหรับ ราคา Mercedes-Benz GLA-Class ในเวอร์ชั่นล่าสุดนั้น ทราบมาว่าจะมีการเคาะราคาขายกันออกมาที่ 2,440,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับรถยนต์ขนาดพอเหมาะสำหรับชีวิตในเมืองเเบบนี้
บทความจากเว็บ autoyim.com