นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2554 ที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้เริ่มขยายช่องทางการสื่อสารต่างๆ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยได้ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การตลาดในรูปแบบการใช้สื่อดิจิตอล ซึ่งในปัจจุบันนับเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดที่มีประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตั้งแต่การทำการตลาดผ่านช่องทางสังคมออนไลน์ (Social Media) ในการให้ข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ผ่านทาง Facebook รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้พัฒนา Application บน iPhone ในชื่อ Mercedes-Benz Thailand เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูล ข่าวสาร รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ นอกจากนั้นยังได้สร้างความแปลกใหม่ให้แก่วงการยานยนต์ ด้วยการใช้ New Media โดยได้พัฒนา iPad Sale Kit เพื่อเป็นเครื่องมือที่ช่วยการทำงานของทีมขาย ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 32 ที่ผ่านมา ตั้งแต่การเลือกรุ่น สี และรายละเอียดของรถยนต์ ซึ่งสามารถสร้างความน่าสนใจและความแปลกใหม่ให้กับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมบูธได้เป็นอย่างดี
นายคมกริช กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปี 2555 นี้เราได้สร้างความแปลกใหม่ให้แก่วงการ ยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียด้วยการร่วมมือกับ เดมเลอร์ เซ้าท์อีสต์เอเชีย (Daimler South East Asia) จัดทำสายรัดข้อมือ (wristband) แบบพิเศษโดยใช้เทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) เป็นตัวเชื่อมต่อเข้ากับ Social Network บน Facebook ของตัวเองให้เหล่านักท่องโลกออนไลน์ได้เข้ามาสัมผัสกับกิจกรรมที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้จัดขึ้น ด้วยการลงทะเบียนผ่านทาง Facebook ซึ่งผู้ลงทะเบียนจะได้รับสายรัดข้อมือ เพื่อเป็นตัวถ่ายโอนข้อมูล ทำให้สามารถแชร์ข้อมูลหรือรูปภาพต่างๆ ขึ้นบนหน้า Facebook ของตัวเองได้ทันที เมื่อเข้ามาเยี่ยมชมภายในบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ว่าจะเป็นการกด Like การเช็คอิน (Check-in) หรือการ แท็ครูปภาพ (Tag) ด้วยการถ่ายรูปกับรถยนต์ที่ชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น Concept A-Class, The new B-Class, The new M-Class หรือ C 63 AMG Coupe Black Series โดยที่ภายในบูธจะมีตัวเครื่องรับสัญญาณตามจุดต่างๆ ซึ่งทำหน้าที่ส่งผ่านข้อมูลและรูปภาพขึ้นบน Facebook ของเจ้าของ Account โดยที่ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ หรือมือถือ ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียที่ได้นำเทคโนโลยี RFID เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรมสำหรับผู้บริโภค นายคมกริช กล่าว
แนวโน้มด้าน Digital Marketing โดยเฉพาะการทำตลาดผ่านช่องทาง Social Network เป็นที่นิยมในการทำตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค เนื่องจากในปัจจุบันจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถสร้างการรับรู้ และสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนั้นยังเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดที่มีต้นทุนต่ำ เมื่อเทียบกับเครื่องมือสื่อสารการตลาดในรูปแบบอื่นๆ แต่ให้ประสิทธิภาพสูงและมีแนวโน้มที่ดี โดยที่กลุ่มผู้บริโภคสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมอร์เซเดส-เบนซ์จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาการสื่อสารทางดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองตามความต้องการและเพิ่มช่องทางสื่อสารและให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด นายคมกริช กล่าวสรุป
บทความจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)