บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดงาน BMW Xpo 2009 เปิดตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 4 รุ่น (1) BMW 730Ld (ราคา 7,599,000 บาท), (2) BMW Z4 sDrive23i Highline (ราคา 5,049,000 บาท), (3) BMW 520d Sport DVD Navigator (ราคา 3,799,000 บาท) and (4) BMW 320d SE DVD Navigator (ราคา 2,899,000 บาท) สำหรับงาน BMW Xpo 2009 ที่มีระหว่างวันที่ 10-13 กันยายนนี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ทางบีเอ็มดับเบิลยูจะจัดแสดงรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นต่างๆ ครบทุกรุ่น แสดงความพร้อมก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำตลาด
มร. มิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า งาน BMW Xpo 2009 ปีนี้เป็นก้าวสำคัญที่ทางบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงศ้กยภาพและความพร้อมที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำตลาด ในงานนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยได้เปิดตัวรถยนต์ BMW 730Ld ที่เพียบพร้อมด้วยความสมรรถนะและหรูหราซึ่งนอกจากจะเป็นรถยนต์ที่จะสร้างตลาดระดับซุเปอร์ซาลูนให้กับบีเอ็มดับเบิลยูแล้ว ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเซ็กเมนท์ระดับซุเปอร์ซาลูนอีกด้วย ทั้งในแง่ของสมรรถนะ ความหรูหราสะดวกสบาย อีกทั้งความประหยัดและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ส่วนอีก 3 รุ่นคือ BMW 520d Sport DVD Navigator BMW 320d SE DVD Navigator และ BMW Z4 sDrive23i Highline ซึ่งมาพร้อมกับระบบ CIC Car Infotainment Computer ซึ่งรวมถึงระบบนำทาง Navigator ระบบ DVD และระบบ iDrive นั้น การนำเสนอระบบนำทาง Navigator ในทุกระดับเซ็กเมนท์ ตั้งแต่ซีรี่ย์ 3 จนถึง ซีรี่ย์ 7 นี้เป็นการแสดงให้ประจักษ์ชัดถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของบีเอ็มดับเบิลยู ทั้งในส่วนของสมรรถนะ ความประหยัด อีกทั้งในส่วนของความสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างจริงจัง และพร้อมก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำตลาด
BMW 730Ld
เทคโนโลยียนตรกรรมที่เหนือชั้น
สมรรถนะเป็นเลิศ การใช้พลังงานอย่างมีคุณค่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
BMW ซีรี่ย์ 7 ได้ถูกสร้างจาก วิสัยทัศน์แห่งรถยนต์ระดับผู้นำ ซึ่งจะต้องเป็นเลิศทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย สมรรถนะที่เหนือชั้น และที่สำคัญสำหรับผู้นำสมัยใหม่ คือ ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม BMW 730Ld ซึ่งจัดได้ว่าเป็นรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีสูงสุดคันหนึ่งที่ได้มีการประกอบขึ้นในเมืองไทย ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา พร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันและเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมันด้วยหัวฉีด Piezo ที่สามารถฉีดน้ำมันด้วยแรงดันสูงถึง 1,800 บาร์ เครื่องยนต์ดีเซลที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 185 กิโลกรัมเครื่องนี้สามารถผลิตแรงบิดมหาศาลถึง 540 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 1,750-2,500 รอบและกำลังสูงสุดถึง 218 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า 6 สปีดสามารถสร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลาเพียง 8.0 วินาที อีกทั้งยังมีความประหยัดน้ำม้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในคลาส ด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันเพียง 13.7 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 194 กรัมต่อกิโลเมตร ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยตามมาตรฐานการวัด EU
เบื้องหลังค่าสถิติที่สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับรถยนต์ระดับซุเปอร์ซาลูนนั้นเป็นผลลัพธ์จากเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่เหนือชั้น ทั้งในส่วนของแอร์โรไดนามิกส์ที่มีค่าสัมประสิทธิแรงต้านอากาศเพียง 0.29 และเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ที่ล้ำหน้า ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ โครงสร้างตัวรถ ผิวตัวถัง และระบบช่วงล่าง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้าน้ำหนักของบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ย์ 7 ใหม่นี้เบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 55 กิโลกรัม นอกจากนั้นยังมีนวัตกรรมระบบบริหารพลังงานภายในรถบีเอ็มดับเบิลยูซีรี่ย์ 7 ใหม่นี้เช่น ระบบปั๊มน้ำและปั๊มน้ำมันเครื่องแบบ On-Demand รวมถึงระบบ Brake Energy Re-generation ซึ่งเป็นการนำพลังงานส่วนเกินจากการเบรกกลับมาแปรรูปเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อป้อนให้กับระบบต่างๆ ภายในรถ
เพียบพร้อมทั้งในด้านความหรูหรา
สะดวกสบาย และความปลอดภัย
มิติตัวถังของ BMW ซีรี่ย์ 7 ใหม่นี้ได้รับการขยายเพิ่มขึ้นในเกือบทุกส่วน เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยและความ กว้างขวางสะดวกสบายทั้งในส่วนของคนขับและที่นั่งด้านหลัง ความยาวฐานล้อได้ถูกเพิ่มขึ้นอีก 8 เซ็นติเมตรจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งทำให้ BMW 730Ld เป็นรถระดับซุปเปอร์ซาลูนที่มีพื้นที่ด้านหลังกว้างที่สุดในเซ็กเมนท์ ในขณะที่ความยาวรวมของตัวรถอยู่ที่ 5.212 เมตร หรือเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนเพียง 3.3 เซ็นติเมตร เพื่อคงความคล่องตัวและปราดเปรียวอย่างเหนือชั้น
ภายใต้รูปลักษณ์ที่งามสง่าของ BMW 730Ld นั้นเพียบพร้อมไปด้วยนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ยกตัวอย่างเช่น ระบบ Night Vision ใหม่ ซึ่งเป็นระบบกล้องอินฟาเรดที่มาพร้อมกับความสามารถในการจับทิศทาง และความเร็วของ คนหรือสัตว์ เพื่อคำนวณและเตือนล่วงหน้าให้ผู้ขับได้ทราบถึงสถานการณ์ที่อาจจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะยามค่ำคืนและอยู่นอกระยะส่องของไฟหน้า
ในด้านของเทคโนโลยีที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับซาลูนระดับผู้นำคันนี้ ทางวิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูได้ ติดตั้งระบบ Dynamic Damping Control ซึ่งสามารถปรับระบบช่วงล่างของรถให้มีความนุ่มนวลที่สุดตาม สภาพผิวถนนที่ต่างกัน เช่น ถนนเมืองหรือชานเมืองที่มีความขรุขระ หรือถนนทางด่วนยกระดับที่ราบเรียบ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายของผู้โดยให้อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย BMW 730Ld ยังมีระบบกล้องทั้งในด้านหลังเพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัยขณะถอยรถ และกล้องด้านข้างที่ติดตั้งอยู่บนกันชนหน้า เพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัยโดยเฉพาะกรณีที่เลี้ยวออกจากซอย เพื่อให้ไม่ต้องยื่นหน้ารถออกมามากเกินไป
อีกหนึ่งความเหนือชั้นของ BMW 730Ld คือเรื่องของความสมดุลในการกระจายน้ำหนักซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดในด้านความปลอดภัย ทางวิศวกรของบีเอ็มดับเบิลยูได้ ติดตั้งระบบเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้กับ BMW 730Ld เช่น ระบบ Integrated Chassis Management ซึ่งจะเป็นระบบสมองกลหน่วยควบคุมส่วนกลาง มีหน้าที่ควบคุมและประสานงานของ ระบบความปลอดภัยต่างๆ เช่น ระบบรักษาเสถียรภาพ Dynamic Stability Control และ ระบบ Dynamic Drive Control ที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงาน ของทั้งระบบช่วงล่าง ระบบบังคับเลี้ยว และโปรแกรมของระบบเกียร์ ซึ่งการประสานงานที่มีประสิทธิภาพเป็นเลิศของระบบ Integrated Chassis Management อาศัยเทคโนโลยีเครื่องข่ายข้อมูลความเร็วสูง FlexRay ซึ่งมีความเร็ว ในการส่งข้อมูลสูงกว่าระบบธรรมดาถึง 20 เท่า
ระบบนำทาง BMW Navigation Professional
พร้อมด้วยระบบเครื่องเสียงระบบเซอร์ราว
ให้เสียงสมจริงเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์
BMW 730Ld ใหม่มาพร้อมกับระบบนำทาง BMW Navigation Professional ซึ่งทำงานอยู่บนระบบฮาร์ดดิสก์ เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน และแผนที่จะแสดงผลบนจอมอนิเตอร์แบบ Hi-resolution ขนาด 10.2 นิ้วบน แดชบอร์ด และฮาร์ดดิสก์ขนาด 80 กิกกะไบท์ นอกจากจะเก็บข้อมูลแผนที่ดิจิตอลแล้ว ยังสามารถเก็บบันทึกไฟล์เพลงได้อีกด้วย
ด้วยความมุ่งมั่นในการให้ความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารขั้นสูงสุดให้สมกับนิยาม สุดยอดอัครยนตรกรรมระดับผู้นำ BMW 730Ld จึงได้รับการติดตั้งระบบ Infotainment สำหรับให้ข้อมูล ข่าวสารและความบันเทิงสำหรับผู้โดยสาร เช่น ระบบทีวีและดีวีดีด้วยจอมอนิเตอร์ 1 จอขนาด 10.2 นิ้ว ในด้านหน้า และ 2 จอขนาด 9.2 นิ้วที่สามารถทำงานอิสระต่อกันสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และระบบ เครื่องเสียงระบบเซอร์ราว LOGIC7 ที่มีถึง 16 ลำโพงและให้เสียงสมจริงเหมือนอยู่โรงภาพยนตร์ ซึ่งสามารถ ควบคุมผ่านระบบ iDrive ใหม่ ที่ติดตั้งทั้งในด้านหน้าและด้านหลัง และเพื่อให้การเดินทางทั้งใกล้และไกล เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย และสะดวกสบาย ที่นั่งด้านหลังสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งมาพร้อมกับ ระบบนวดหลัง และระบบ เป่าลมเย็น นอกจากนั้นระบบปรับอากาศยังเป็นระบบแยกโซน 4 โซนซึ่งสามารถปรับ อุณหภูมิให้เหมาะสม กับที่ผู้โดยสารแต่ละท่านต้องการ
BMW 730Ld จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้กับยานยนต์ระดับผู้นำ ด้วยความเพียบพร้อมทั้งในด้านรูปลักษณ์ ที่สง่างาม หรูหรา และความสะดวกสบาย อีกทั้งในด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม และสมรรถนะที่เป็นเลิศ
BMW 520d Sport + DVD +Navigator
ซาลูนหรูแฝงความสปอร์ตสำหรับผู้บริหารไฟแรง
BMW 520d Sport ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมัน Common Rail Direct Injection เจนเนอร์เรชั่นที่ 3 และเทคโนโลยีหัวฉีดแบบ Piezo ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics เครื่องยนต์นี้สามารถผลิตแรงม้าสูงสุด 177 แรงม้าที่ 4,000 รอบและแรงบิดสูงสุดมากถึง 350 นิวตัน-เมตร ระหว่าง 1,750-3,000 รอบ พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ Steptronic ส่งผลให้ BMW 520d สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 8.4 วินาที มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร และคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 162 กรัมต่อกิโลเมตร
BMW 520d Sport มาพร้อมกับชุดแต่ง M Aerodynamics ล้อแม๊กซ์ M Double Spoke ขนาด 18 นิ้ว และพวงมาลัยแบบสปอร์ต ซึ่งเน้นถึงความดุดันแต่สุขุมและนุ่มลึกในสไตล์ผู้บริหารไฟแรง นอกจากนี้ยังได้รับการติดตั้งระบบ CIC Car Infotainment Computer ซึ่งรวมถึงระบบ BMW Navigation System Professional ระบบ DVD พร้อมทั้งระบบ Bluetooth และ iPod USB Connector
BMW 320d SE + DVD + Navigator
บรรทัดฐานแห่งความสปอร์ต หรูหรา และไฮเทค
BMW 320d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบขนาด 2.0 ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีระบบฉีดน้ำมัน Common Rail Direct Injection เจนเนอร์เรชั่นที่ 3 และเทคโนโลยีหัวฉีดแบบ Piezo ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน ด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics เครื่องยนต์นี้สามารถผลิตแรงม้าสูงสุด 177 แรงม้าที่ 4,000 รอบและแรงบิดสูงสุดมากถึง 350 นิวตัน-เมตร ระหว่าง 1,750-3,000 รอบ พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบ Steptronic ส่งผลให้ BMW 320d สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 8.0 วินาที ซึ่งจัดได้ว่าเป็นอัตราเร่งที่ดีที่สุดในเซ็กเมนท์ นอกจากนั้นยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุดด้วยเช่นกันที่ 16.7 กิโลเมตรต่อลิตร
BMW 320d SE + DVD + Navigator มาพร้อมกับระบบ CIC Car Infotainment Computer ซึ่งรวมถึงระบบ BMW Navigation System Professional ระบบ DVD พร้อมทั้งระบบ Bluetooth และ iPod USB Connector
BMW Z4 sDrive23i Highline
เสน่ห์แห่งสปอร์ตโรดสเตอร์
BMW Z4 Roadster เป็นสุดยอดแห่งโรดสเตอร์ที่ผสมผสานอย่างลงตัวของความคลาสสิกของดีไซน์ที่มีเสน่ห์แบบโรดสเตอร์พันธุ์แท้ เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และความสะดวกสบาย อีกทั้งยังรวมถึงอารมณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตโรดสเตอร์เต็มรูปแบบด้วยการกระจายน้ำหนักอย่างสมดุล 50:50 หน้า:หลัง และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง นอกจาก BMW Z4 Roadster ใหม่จะมีระบบขับเคลื่อนที่เหนือชั้น ยังมีความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยเข้ากับไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่ เช่น หลังคาแบบ Retractable Hardtop น้ำหนักเบาสามารถเปิดหรือปิดในเวลาเพียง 20 วินาที อีกทั้งยังสามารถใส่ถุงกอล์ฟได้ถึง 2 ใบ (ขณะหลังคาปิด) สำหรับผู้ขับขี่ที่รักความสปอร์ตของรถแบบโรดสเตอร์แต่ยังคงหลงใหลในกีฬากอล์ฟ
BMW Z4 sDrive23i Highline ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร แบบ 6 สูบแถวเรียง กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร / 2,750 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 7.3 วินาที อัตราการประหยัดน้ำมัน 11.2 กิโลเมตรต่อลิตร และ อัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 207 กรัมต่อกิโลเมตร
BMW Z4 sDrive23i Highline มาพร้อมกับระบบ CIC Car Infotainment Computer ซึ่งรวมถึงระบบ BMW Navigation System Professional ระบบ DVD พร้อมทั้งระบบ Bluetooth และระบบเครื่องเสียงไฮไฟ พร้อมทั้งล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว
ราคา
BMW 730Ld: 7,599,000 บาท
BMW Z4 sDrive23i Highline: 5,049,000 บาท
BMW 520d Sport + DVD +Navigator ราคา 3,799,000 บาท*
BMW 320d SE + DVD + Navigator ราคา 2,899,000 บาท*
